วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551

บ้านแมวโบราณ


เป็นสถานที่อนุรักษ์พันธุ์แมวไทยโบราณ ตั้งอยู่เลขที่ 2/1 หมู่ 7 ตำบลแควอ้อม บ้านแมวไทยโบราณเกิดจากการรวมตัวของเพื่อนที่นิยมเลี้ยงแมวไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์แมวไทยให้อยู่คู่กับประเทศไทยเป็นสมบัติของชาติตลอดไปและเพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องคุณสมบัติและลักษณะที่ถูกต้องของแมว สนับสนุนด้านการค้นคว้าวิจัย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมทั้งเพิ่มพูนความรู้ระหว่างสมาชิก แลกเปลี่ยนเรื่องและประสบการณ์การวิจัย การผสมพันธุ์กับองค์กรการเลี้ยงแมวที่เกี่ยวข้อง คุณปรีชา พุคคะบุตร ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นผู้ดูแลบ้านแมวไทยโบราณเล่าให้ฟังว่า “เดิมคุณแม่เป็นผู้เลี้ยงแมวไทยสายพันธุ์วิเชียรมาศ สมัยนั้นผมยังเด็กไม่ค่อยได้สนใจ พอโตขึ้น ถูกใช้ให้คลุกข้าวเลี้ยงแมว ช่วงนั้นมีแมวอยู่ในบ้านไม่มากนัก เลี้ยงมาเรื่อยๆ แมววิเชียรมาศไม่เคยขาดบ้าน มีความผูกพันกับแมวมาตลอด ต่อมามีเพื่อนฝูงที่นิยมเลี้ยงแมวมากขึ้น ไปมาหาสู่พูดคุยกันว่าน่าจะอนุรักษ์ไว้ เพราะแมวไทยเป็นแมวที่ฉลาด ช่างประจบ รักบ้าน รักเจ้าของและสวยสง่า มองดูสะดุดตา” แมวไทยมีหลายพันธุ์ทั้งพันธุ์สีสวาท ศุภลักษณ์ โกญจา ภายในบ้านแมวไทยมีเรือนเพาะเลี้ยงแมวไทย แบ่งเป็นกรงเลี้ยงแมวไทยประเภทต่าง ๆ บ้านแมวไทยโบราณ เป็นสถานที่น่าสนใจเหมาะแก่การศึกษาหาความรู้เรื่องแมวไทยพันธุ์แท้ๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3473 3284, 08 4003 4194
การเดินทาง ไปตามทางหลวงหมายเลข 325 (ถนนสมุทรสงคราม-บางแพ) เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานพระศรีสุริเยนทร์ เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 3062 ข้ามคลองประชาชมชื่น ผ่านวัดภุมรินทร์กุฎีทอง วัดบางแคใหญ่ จะเห็นป้ายบ้านแมวไทย

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2551

การฝึกแมว


:: ฝึกนิสัยการเรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับคน ::
การหยอกเย้าตอบกลับ ลูบหัวลูบตัวมันก็จะเลียมือก่อนฝึกแมวในหลักการนี้ผู้เป็นครูต้องมีความรู้เกี่ยวกับนิสัยและพฤติกรรมของแมวนักเรียน พอสมควร แมวเป็นสัตว์หน้าซื่อใจคด (หน้าไหว้หลังหลอก) มีทั้งเล่ห์เหลี่ยมและความไร้เดียงสา ซึงต้องการขัดเกลา แมวไม่ซื่อและรักเจ้าของอย่างจริงใจเหมือนกับสุนัข การฝึกจึงต้องใช้ความอดทนที่จะอบรมสั่งสอนด้วยความลำบากใจมากกว่าการเลี้ยงสุนัข แต่ถึงกระนั้นแมวก็ยังเรียนรู้และสามารถฝึกให้มีระเบียบ ว่าง่ายและใช้ประโยชน์ได้ เช่น การเข้าใจกริยาท่าทางของแมวแสดงให้คนรับรู้อารมณ์เมื่อจะเล่นกับมันควรดูท่าทางของมันก่อนว่าในขณะนั้นอารมณ์ดีพอที่จะเล่นด้วยหรือไม่ ถ้าแมวรู้สึกดีใจที่จะได้พบเจ้าของมันจะรีบวิ่งเข้ามาหาและใช้หางพันแข้งพันขาแสดงความยินดี หูตั้งตรง ตาขยายกลมโต หนวดกระดิก เหล่านี้ ถ้ามีตอบรับรู้การสัมผัสแสดงความรักตอบ แต่ถ้ามันโกรธ หูแมวจะพับไปทางด้านข้าง หนวดเหยียดตรงไปทางข้างหน้า แกว่งหางไปมาและเตรียมขาตะปบพร้อมกับใช้เล็บแหลมคมข่วน เจ้าของจึงควรระวังอย่าให้คนในบ้านเล่นกับแมวแรง ๆ จนแมวรู้สึกเจ็บ เพราะจะถูกตอบโต้ทันทีทันควัน เมื่อเห็นแมวมีอาการเงียบไม่เคลื่อนไหว ก็อย่าวางใจว่าแมวไม่ทำร้าย ความจริงแมวสามารถซ่อนอารมณ์ไว้ในท่าที เฉยเมย ได้อย่างมิดชิด แต่อาการที่สังเกตง่ายมากคือ เมื่อมีขนตั้งชันแสดงว่ามันกลัว หรือ โกรธและพร้อมที่จะต่อสู้อย่างรุนแรง โดยลวงศัตรูให้ตายใจด้วยท่าทีเฉย ๆ แบบน้ำนิ่งไหลลึก ในขณะเดียวกันแมวก็เป็นสัตว์ที่มีอารมณ์ละเอียดอ่อน และรักเจ้าของด้วยความ
:: ฝึกเรียกชื่อ ::
แมวรู้จักชื่อตัวเองได้เช่นเดียวกับสุนัข การตั้งชื่อให้แมวควรถือหลักคือ สั้น ออกเสียงจำได้ง่าย มักเป็นชื่อไม่เกิน 2 พยางค์ เมื่อมีชื่อแล้วก็ต้องหมั่นเรียกควรเริ่มฝึกเรียกตั้งแต่ยังเล็ก โตแล้วอาจไม่ได้ผล ยิ่งเรียกบ่อยแมวก็จำชื่อตัวเองได้เร็วขึ้นและเป็นประโยชน์ในการฝึก เมื่อเรียกแมวแล้วแมวเข้ามาหา ก็ควรให้ความสนใจ เป็นการให้รางวัลและตอกย้ำว่ามันเข้าใจถูกต้องแล้ว
:: ฝึกขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง ::
ตามธรรมชาติแล้วแม่แมวจะคอยดูแลและสอนวิธีทำความสะอาดแก่ ลูก ๆ เมื่อเริ่มขบวนการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายครั้งแรก เริ่มเมื่ออายุได้ 2 ถึง 3 อาทิตย์ ด้วยวิธีการเลียบริเวณปากทวารหนักหลังจากกินนมหรืออาหารป็นการกระตุ้นให้ลูกแมวขับถ่ายออกมา จึงควรเตรียมจัดถาดทรายตื้น ๆ ไว้ให้แก่ลูกแมวในช่วงนี้ มิฉะนั้นมันจะหาที่ขับถ่ายเองแล้วจะกลายเป็นนิสัยที่แก้ยาก นิสัยการขับถ่ายของแมวนั้นถ้าถูกขังอยู่ในกรงเมื่อปวดท้องเขาจะแสดงอาการคุ้ยพื้น ตะกุยกรงขอร้องอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเจ้าของไม่ใส่ใจสังเกตแล้วขังไว้หลายชั่วโมง แมวจะอั้นอุจจาระ และ ปัสสาวะเอาไว้ จนติดนิสัยกลายเป็นแมวท้องผูกทำให้กระเพาะปัสสาวะยืด แมวบางตัวสามารถอั้นได้หลายวันหรืออาจนานถึง 7 วัน สภาพเช่นนี้น่าสงสารมากซึ่งไม่ควรละเลย ถ้าแมวไม่ขับถ่ายในถาดที่เคยใช้อยู่เป็นประจำแล้ว วิธีแก้ไขก็คือเปลี่ยนทรายในถาดใหม่ หรือขยายกระบะให้ใหญ่ขึ้น การลงโทษแมวด้วยวิธีการรุนแรงต่าง ๆ จะไม่ได้ผล ควรรีบทำความสะอาดพื้นห้องที่เปรอะเปื้อนให้หมดกลิ่นเพราะลูกแมวจะจำกลิ่นของมันได้และย้อนกลับมาถ่ายที่เดิมอีก เราอาจสอนให้แมวขับถ่ายนอกบ้านได้อย่างง่าย ๆ แต่ต้องเตรียมที่ทางให้มันเข้าออกได้ง่ายโดยใช้บานปแระตูปิดเปิดสำหรับแมวโดยเฉพาะ โดยทั่วไปจะทำเป็นบานสปริง การสอนให้แมวรู้จักและใช้ บานเปิดต้องใช้ความอดทน แรก ๆ แมวอาจจะกลัวการถูกบานประตูหนีบขณะที่ผ่านเข้าออก ตอนแรกอาจจะคอยช่วยเหลือจับบานประตูไว้ให้แมวเข้าออกได้ก่อน จากนั้นจึงพยายามปล่อยให้แมวเข้าออกโดยใช้เส้นทางนี้ แล้ว ค่อย ๆ ลดความช่วยเหลือลง จนในที่สุดแมวจะคุ้นเคยและสามารถใช้อุ้งเท้าผลักบานประตูเปิดออกเอง


ขาวมณี


แมวขาวมณี หรือ ขาวปลอดเป็นสายพันธุ์ที่พบเห็นได้มากสุดในปัจจุบัน เป็นแมวไทยโบราณที่ไม่ได้มีบันทึกไว้ในสมุดข่อย จึงเชื่อว่าเป็นแมวที่เพิ่งกำเนิดในต้นยุครัตนโกสินทร์นี่เอง นิยมเลี้ยงไว้ในราชสำนักครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5 แมวชนิดนี้เป็นที่โปรดปราณมาก ในต่างประเทศนิยมเลี้ยงกันเป็นคู่เพื่อให้ผลัดกันทำความสะอาดขน เป็นแมวที่ค่อนข้างเชื่อง เหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนได้เป็นอย่างดี
ลักษณะเด่นของขาวมณี

สีขนและผิวกายขาวสะอาด ขนสั้น นุ่ม รูปร่างลำตัวยาวขาเรียว ทรงเพียวลม ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป หัวไม่กลมโต แต่เป็นทรงสามเหลี่ยมคล้ายหัวใจ หน้าผากแบนใหญ่ หูขนาดใหญ่และตั้งตรงจมูกสั้น ดวงตาจะรีเล็กน้อยนัยน์ตาเป็นสีฟ้าหรือเหลืองอำพันสีใดสีหนึ่งเมื่อนำแมวขาวมณีตาสีฟ้า ผสมกับแมวขางมณีตาสี อำพัน ลูกที่ออกมาจะมีตาสองสี คือ สีฟ้าข้างหนึ่งและสีเหลืองอำพันข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะที่ถูกควบคุมโดยยีนด้อยในแมวขาวมณีแทบทุกตัวจะมีจุดด้อย เช่น ถ้ามีตาสองสีมักมีตาข้างหนึ่งที่ไม่ดี อาจมองเห็นไม่ชัดหรือมองไม่เห็นเลย ถ้าแมวตาสีฟ้ามักจะหูพิการ หรือไม่ได้ยินเสียงมากนัก และแมวตาสีเหลืองอำพันมักมีต่อมขนที่ไม่ดี จุดด้อยอีกข้อของแมวขาวมณีคือความไม่ขาวปลอด มีสีใดสีหนึ่งแซมเข้ามา รวมถึงตาสองข้างเป็นคนละสีกัน (Odd eyes) หรือเป็นสีอื่นสีใดที่ไม่ใช่สีฟ้าหรือเหลืองอำพัน ก็ไม่เป็นที่ยอมรับ เช่นเดียวกับขนที่ยาวมากเกินขนาด หางคด หางขอด หางงอและ หางสั้น

ลักษณะที่เป็นข้อด้อย
ขนมีสีอืนปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

แมวโกนจา


แมว "โกนจา" หรือบางแห่งก็เขียนว่า "โกญจา" แมวชนิดนี้เป็นแมวสีดำสนิทตลอดทั้งตัว ขนสั้น ไม่มีสีอื่นใดปะปนเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีลักษณะเป็นขนเส้นเล็กละเอียดนุ่มและเรียบตรงทั้งลำตัว ส่วนหัวกลมแต่ไม่โต มีปากเรียวแหลม หูตั้ง นัยตาเป็นสีเหลืองอมเขียวหรือทองอ่อน อาจเปรียบได้กับดอกบวบแรกแย้มหรือทองดอกบวบ รูปร่างสะโอดสะองคล่องแคล่ว หางยาว ปลายหางแหลมตรง อุ้งเท้าทอดคล้ายเท้าสิงห์ มีความสง่างามขณะเคลื่อนไหว
แมวโกญจาบางทีอาจรู้จักกันในสายพันธุ์
บอมเบย์

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น
ลักษณะสีขน : ขนสั้น สีดำตลอดทั้งตัว
ลักษณะของส่วนหัว : รูปหัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว
ลักษณะของนัยน์ตา : นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม (สีเหลืองอมเขียว)
ลักษณะของหาง : หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
ลักษณะที่เป็นข้อด้อย

ขนยาวมากเกินไป ขนมีสีอื่นปะปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป ( เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี

วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551

แมวสฟิงซ์


สฟิงซ์

ใครๆก็เรียกแมวพันธุ์สฟิงซ์ว่าแมวไม่มีขน แม้ว่าอันที่จริงแล้วมันมีขน ปกคลุมอยู่บางๆ โดยจะเห็นได้ชัดเจนที่ปลายลำตัวทั้งสองข้าง แมวไม่มีขนตัวแรกปรากฏ ที่แคนาดาในพ.ศ. 2509 ต่อมาจึงได้กลายเป็นแมวพันธุ์หนึ่ง โดยใช้แมวขนสั้นของอเมริกามาผสม สมาคมผู้เลี้ยงแมวส่วนใหญ่ไม่ยอมรับแมวพันธุ์นี้ และเป็นพันธุ์ที่มีปัญหาถกเถียงกันอยู่
นิสัย
น่ารัก รักเจ้าของ
ลักษณะ
ลำตัวยาวหางยาว เรียวปลายหาง มีขนยาวปกคลุมขายาวปานกลาง หัวคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยม ปลายหูกลม สีลำตัวสีน้ำตาลขาว หรือดำขาว พื้นท้องเป็นแถบขาวยาวตลอดลำตัวตั้งแต่ปาก ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะไม่เหมือนแมวพันธุ์อื่น ตาสีอำพัน